เหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ได้ส่งผลต่อความมั่นใจของนักลงทุนต่างชาติไม่น้อย ซึ่งรวมถึงนักลงทุนไต้หวันด้วย ดังนั้น เพื่อฟื้นฟูความมั่นใจของนักลงทุนไต้หวัน เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2553 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนไทย สำนักงานไทเป ได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมไต้หวัน จัดงานสัมมนา “ฟื้นฟูความมั่นใจของนักลงทุนไต้หวัน” ขึ้น โดยเชิญตัวแทนจากสมาคมต่างๆ ทั่วเกาะไต้หวันเข้าร่วมด้วย และมีการบรรยายโดยทีมไทยแลนด์ในไต้หวัน นำโดยนางสาววันทนีย์ วิพุธวงศ์สกุล รักษาการผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ไทเป นางกิตติมา วีระชาติกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ประจำไต้หวัน นายศักดิ์ชัย เหลืองสถิตกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบีโอไอ ประจำไต้หวัน และนายแจ๊ก เซี่ย ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของสำนักงาน ททท.ประจำไทเป และมีนายหวง ป๋อจื้อ รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการต่างประเทศ สภาอุตสาหกรรมไต้หวัน ร่วมบรรยายในการสัมมนา
นางสาววันทนีย์ วิพุธวงศ์สกุล รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ไทเป ได้กล่าวให้ความมั่นใจแก่นักลงทุนไต้หวันว่า ปัจจุบันสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว มีการจัดตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ที่มาจากบุคคลที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในไทยและในต่างประเทศ เช่น อดีตนายกรัฐมนตรีอานันท์ ปันยารชุน และนายแพทย์ประเวส วะสี เจ้าของรางวัลแมกไซไซ และในช่วงที่ผ่านมา สังคมนานาชาติไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ ที่มีมติยอมรับในแผนปรองดองของรัฐบาลไทย ส่วนสหประชาชาติก็แต่งตั้งให้ไทยดำรงตำแหน่งประธานคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนประจำปี 2554 ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความมั่นคงทางการเมืองของไทยได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ไทเป ยังย้ำว่า ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลไปอย่างไร และมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างไร ทุกอย่างล้วนเป็นไปเพื่อการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนให้เหมาะสมสอดคล้องกับความเป็นจริงและเอื้อประโยชน์ต่อการลงทุนของทุนต่างชาติในไทยทั้งสิ้น
นายหวง ป๋อจื้อ รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการต่างประเทศ สภาอุตสาหกรรมไต้หวันได้กล่าวถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของไทยเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2553 ที่รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ฯได้กล่าวถึง โดยระบุว่า “เป็นการแสดงความมั่นใจต่อภาวะเศรษฐกิจขาขึ้นของไทยว่า เป็นไปอย่างเข้มแข็งหลังวิกฤตเสื้อแดง ซึ่งโดยทั่วไปคาดว่า จะปรับอีก 0.5% ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจไทยที่กำลังก้าวไปอย่างมั่นคง แม้แต่ไต้หวันยังไม่กล้าปรับมากขนาดนี้” นอกจากนี้ เขายังได้กล่าวว่า การเลือกทำเลลงทุนของนักลงทุนต้องคำนึงถึงผลกำไร แต่การแสวงหาแหล่งลงทุนที่มีต้นทุนค่าแรงต่ำเพียงอย่างเดียวนั้น แสดงว่ากิจการของคุณไม่พัฒนาไม่ก้าวหน้า แต่ต้องคำนึงถึงการพัฒนากิจการของตนให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น
ที่มา : สนร.ไทเป