ค่าจ้าง
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ไต้หวันกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เดือนละ 26,400 เหรียญไต้หวัน หรือเท่ากับวันละ 880 เหรียญไต้หวัน หรือชั่วโมงละ 110 เหรียญไต้หวัน
จำนวนชั่วโมงทำงาน
- ชั่วโมงทำงานในวันปกติ จะต้องไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมง และไม่เกิน 40 ชั่วโมง ใน 1 สัปดาห์
- หากทำงานล่วงเวลาต้องไม่เกิน 54 ชั่วโมงใน 1 เดือน รวมสะสมใน 3 เดือน ไม่เกิน 138 ชั่วโมง
วันหยุดประจำสัปดาห์
ทำงานทุก 7 วัน จะมีวันหยุดประจะสัปดาห์ 2 วัน (ในจำนวนนี้ มี 1 วัน เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ที่ทำงานล่วงเวลาไม่ได้ อีก 1 วัน เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ที่ทำงานล่วงเวลาได้) โดยนายจ้างต้องจ่ายค่าทำงานล่วงเวลาใน 2 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงละ 146 เหรียญไต้หวัน ชั่วโมงที่ 3 เป็นต้นไป ชั่วโมงละ 184 เหรียญไต้หวัน
ค่าทำงานล่วงเวลาในวันปกติและวันหยุดราชการ
- ค่าทำงานล่วงเวลาในวันทำงานปกติ ชั่วโมงที่ 1 – 2 จะได้รับชั่วโมงละ 146 เหรียญไต้หวัน (110 x 1.33)
- ชั่วโมงที่ 3 – 4 จะได้รับชั่วโมงละ 184 เหรียญไต้หวัน (110 x 1.67)
- วันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ ได้รับค่าจ้างเท่ากับชั่วโมงทำงานปกติเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่า หากทำงานทั้งวัน 8 ชั่วโมง จะได้รับค่าจ้าง 880 เหรียญไต้หวัน
การลางาน
ค่าเบี้ยประกันภัยแรงงานและประกันสุขภาพของแรงงานต่างชาติ (แรงงานทั่วไป) ปี 2566 (คำนวณจากอัตราค่าจ้างขั้นต่ำรายเดือนปัจจุบัน)
- เบี้ยประกันภัยแรงงาน แรงงานรับผิดชอบ 581 เหรียญไต้หวัน นายจ้างรับผิดชอบ 2,033 เหรียญไต้หวัน
- เบี้ยประกันสุขภาพ แรงงานรับผิดชอบ 409 เหรียญไต้หวันนายจ้างรับผิดชอบ 1,286 เหรียญไต้หวัน
การประกันสุขภาพ
ลูกจ้างทุกคนต้องเข้าเป็นสมาชิกและได้รับการคุ้มครองด้านการรักษาพยาบาลภายใต้กฎหมายกองทุนประกันสุขภาพ (เจี้ยนเป่า) โดยมีเงื่อนไขดังนี้
ผู้ป่วยนอก |
ได้รับความคุ้มครองในเรื่องค่ารักษาพยาบาลจากกองทุนฯ ในอัตรา 90% ส่วนที่เหลือ 10% ลูกจ้างต้องรับผิดชอบจ่ายเอง |
ผู้ป่วยใน |
จะได้รับความคุ้มครองในเรื่องค่ารักษาพยาบาลในอัตราเดียวกับผู้ป่วยนอก และหากผู้ป่วยรับการรักษาในโรงพยาบาล ตั้งแต่คืนที่สี่เป็นต้นไปจะได้รับเงินช่วยเหลือชดเชยค่าจ้างเพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง |
ผู้ป่วยต้องเป็นผู้จ่ายค่าลงทะเบียนด้วยตนเองทุกครั้งที่เข้ารับการรักษา เป็นเงินครั้งละ 100 – 500 TWD. ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยนอกหรือผู้ป่วยใน นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายและยาในการรักษาโรคบางประเภทจะไม่สามารถเบิกจากกองทุนฯ ได้ อาทิ ทำฟันปลอม ตาเทียม เป็นต้น
การประกันภัยแรงงาน
ลูกจ้างทุกคน (ยกเว้นลูกจ้างตำแหน่งผู้อนุบาลและผู้ช่วยงานบ้าน) จะต้องเข้าเป็นสมาชิกกองทุนประกันภัยแรงงานไต้หวัน (เหลาเป่า) โดยกองทุนฯ มีเงื่อนไขการจ่ายเงินดังนี้
กรณีเจ็บป่วย/ประสบอันตรายเนื่องจากการทำงาน ลูกจ้างจะได้รับเงินค่าจ้างตามปกติในช่วงระหว่างหยุดงานรักษาตัว ส่วนเงินทดแทนกรณีทุพพลภาพจะขึ้นอยู่กับระเบียบการจ่ายเงินของกองทุนประกันภัยแรงงาน
กรณีเจ็บป่วย/ประสบอันตรายนอกงาน ลูกจ้างจะได้รับเงินค่าจ้างครึ่งหนึ่งของค่าจ้างรายเดือนในช่วงระหว่างหยุดงานรักษาตัว ทั้งนี้รวมทั้งปีต้องไม่เกิน 30 วัน
กรณีเสียชีวิต
ตั้งแต่ปี 2564 แรงงานภาคสวัสดิการสังคมในครัวเรือนจะได้รับความคุ้มครองกรณีเจ็บป่วย/ประสบอุบัติเหตุเนื่องจากการทำงาน ภายใต้กฎหมายประกันภัยและการคุ้มครองอุบัติเหตุจากการทำงานขยายความคุ้มครอง โดยนายจ้างเป็นผู้รับผิดชอบเบี้ยประกัน
1) ค่าจัดการศพ ลูกจ้างที่เสียชีวิตไม่ว่าจากการทำงานหรือนอกเวลาทำงาน ทายาทมีสิทธิได้รับเงินค่าจัดการศพเท่าที่จ่ายจริง หรือไม่เกินจำนวน 5 เท่า ของเงินเดือนที่เอาประกัน
2) เงินทดแทนกรณีเสียชีวิต
2.1) ลูกจ้างที่เข้าประกันก่อนวันที่ 1 มกราคม 2552 เสียชีวิต ทายาทจะได้รับเงินทดแทนเป็นก้อนครั้งเดียว โดยมีเงื่อนไขการจ่ายเงิน ดังนี้
- เสียชีวิตนอกเวลาทำงาน ทายาทจะได้รับเงินทดแทนตามอายุงานของลูกจ้าง ดังนี้
- เสียชีวิตจากการทำงาน ทายาทจะได้รับเงินทดแทนจำนวน 40 เท่าของเงินเดือนที่เอาประกัน ไม่ว่าลูกจ้างจะมีอายุงานนานเท่าใดก็ตาม
2.2) ลูกจ้างที่เข้าประกันหลังวันที่ 1 มกราคม 2552 เสียชีวิต กองทุนฯ จะจ่ายเงินทดแทนให้ทายาทเป็นรายเดือน ดังนี้
- เสียชีวิตนอกเวลาทำงาน ทายาทมีสิทธิ์ขอรับเงินทดแทนโดยมีเงื่อนไขเช่นเดียวกับกรณีลูกจ้างเป็นสมาชิกกองทุนฯ ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2552 (ยกเว้น แรงงานภาคสวัสดิการในครัวเรือน)
- เสียชีวิตจากการทำงาน ทายาทมีสิทธิ์ขอรับเงินทดแทนรายเดือนในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างที่แจ้งเอาประกันตลอดชีพ จนกว่าจะสูญสิ้นคุณสมบัติ เช่น ทายาทไปสมรสใหม่ ทั้งนี้กองทุนฯ จะหักค่าโอนเงินจากเงินที่จะโอนในแต่ละครั้งเป็นเงินประมาณ 300 TWD ทั้งนี้ หากทายาทมีคุณสมบัติไม่ถึงเกณฑ์ (อายุไม่ครบ 55 ปี หรือไม่มีบุตรอายุต่ำกว่า 20 ปี) กองทุนฯ จะจ่ายเงินทดแทนเป็นเงินก้อนครั้งเดียวในอัตรา 40 เท่า ของเงินเดือนที่แจ้งเอาประกัน
- หากทายาทที่มีสิทธิได้รับเงินทดแทนรายเดือนในลำดับเดียวกันมีมากกว่า 1 คน
กองทุนฯ จะจ่ายเงินทดแทนรายเดือนเพิ่มขึ้นในอัตราคนละ 10 – 20 %
การขอรับเงินสงเคราะห์กรณีทายาทสายเลือดตรงเสียชีวิต (บิดามารดา คู่สมรส และบุตร) กองทุนฯ มีเงื่อนไขการจ่ายเงิน ดังนี้
โดยต้องจัดเตรียมเอกสาร ดังนี้
- แบบคำร้องขอรับเงินของลูกจ้างผู้ยื่นขอ
- สำเนาหนังสือเดินทาง / ใบถิ่นที่อยู่
- ใบมรณะบัตร/ทะเบียนบ้าน/หลักฐานเอกสารที่แสดงความสัมพันธ์ทางสายเลือดของลูกจ้างผู้ยื่นขอและผู้เสียชีวิต (เช่น ทะเบียนสมรส สูติบัตร เป็นต้น) ทั้งนี้เอกสารจะต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษและผ่านการรับรองจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ไทเป ประจำประเทศไทย
ค่าเบี้ยประกันภัยแรงงานและประกันสุขภาพของแรงงานต่างชาติ (แรงงานกึ่งฝีมือที่ได้รับค่าจ้างเดือนละ 35,000 เหรียญไต้หวัน) ปี 2566
การจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยแรงงาน และค่าเบี้ยประกันสุขภาพของแรงงานกึ่งฝีมือที่ได้รับค่าจ้างในอัตราเดือนละ 35,000 เหรียญไต้หวัน ไต้หวันกำหนดให้ผู้ที่มีรายได้ ตั้งแต่ 34,800 – 36,300 เหรียญไต้หวัน ต้องเอาประกันในวงเงิน 36,300 เหรียญไต้หวัน ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนดังนี้
15509