ไต้หวันเตรียมกำหนดให้หน่วยงานราชการและภาคเอกชนต้องจ้างชนเผ่าพื้นเมืองร้อยละ 1
สภานิติบัญญัติไต้หวันได้ผ่านวาระ 1 ร่างแก้ไขกฎหมายปกป้องสิทธิการทำงานชองชนเผ่าพื้นเมือง ซึ่งกำหนดให้หน่วยงานราชการ โรงเรียน ธุรกิจภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนองค์กรและพนักงานในโรงเรียน ในเขตที่ไม่ใช่พื้นที่อาศัยของชนเผ่าพื้นเมือง ต้องทำการว่าจ้างชนเผ่าพื้นเมืองทำงานร้อยละ 1 ของจำนวนพนักงานทั้งหมด ผู้ที่ละเมิดจะถูกปรับจ่ายเงินชดเชย โดยต้องจ่ายเงินชดเชยตามเงินเดือนขั้นพื้นฐานคือ 17,880 เหรียญไต้หวันต่อจำนวนว่าจ้างที่ขาดไป 1 คน ส่วนหน่วยงานราชการ โรงเรียนของรัฐและธุรกิจภาครัฐ ในเขตที่เป็นพื้นที่อาศัยของชนเผ่าพื้นเมือง ต้องว่าจ้างชนเผ่าพื้นเมืองไม่น้อยกว่าร้อยละ 35 ของจำนวนพนักงานทั้งหมด และมีระยะเวลาผ่อนปรนดำเนินการ 3 ปี สมาคมชนเผ่าพื้นเมืองคาดว่า หลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนจะสามารถสร้างโอกาสงานแก่ชนเผ่าพื้นเมืองได้มากกว่า 100,000 ตำแหน่ง


เจี่ยนตงหมิง สส.พรรคก๊กมินตั๋ง ผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการพิจารณาร่างแก้ไขกฎหมายวาระ 2 ระบุว่า การแก้ไขกฎหมายดังกล่าว เป็นสิ่งสำคัญมากต่อการปกป้องสิทธิการทำงานของชนเผ่าพื้นเมือง เพราะการทำงานในทุกระดับชั้น ควรบ่มเพาะชนเผ่าพื้นเมืองที่มีความสามารถ เช่น ทนายความ และแพทย์ เป็นต้น ไม่ควรเป็นเช่นที่ผ่านมา ซึ่งชนเผ่าพื้นเมืองจะทำงานในลักษณะงานชั่วคราวตามสัญญาจ้าง เช่น ยามรักษาการณ์ พนักงานขับรถ หนักงานทำความสะอาด หรือพนักงานเก็บเงิน เป็นต้น เท่านั้น ซึ่งหากสภานิติบัญญัติผ่านวาระ 3 แล้ว รัฐบาลควรเริ่มดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
แหล่งที่มา : สนร.ไทเป