สภาวิจัยเศรษฐกิจไต้หวันคาด จีดีพีปีนี้สูงถึง 8.91% กลับสู่มาตรฐานเดียวกับก่อนเกิดวิกฤตการเงินโลก
สภาวิจัยเศรษฐกิจไต้หวันประกาศรายงานการพยากรณ์เศรษฐกิจประจำปี 2553 เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ศกนี้ว่า จากการเศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวขึ้น และการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียส่งผลให้เศรษฐกิจไต้หวันที่อาศัยการส่งออกเป็นหลักฟื้นตัวและกลับเข้าสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดวิกฤตการเงินโลก และคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้จะสูงถึง 8.91%
นายหงเต๋อเซิง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเศรษฐกิจไต้หวันกล่าวว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่พยากรณ์ไว้ ณ เดือน ก.ค. อยู่ที่ 6% และจะค่อยๆปรับเพิ่มขึ้นเป็น 8.91% โดยตลอดปี 2010 คาดว่าจะสูงถึง 8.91% และเมื่อดูจากเดือน ม.ค.-ต.ค. เฉพาะ ธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจอาหารเครื่องดื่ม มีอัตราการเติบโตสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก สำหรับการลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะเติบโตขึ้น 19.37 หรือ 20% ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมีแนวโน้มว่าการลงทุนภาคเอกชนอาจจะสูงถึง 25.1% ในขณะที่ปัญหาการว่างงานได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น อัตราเงินเดือนของแรงงานโดยทั่วไปได้รับการปรับให้สูงขึ้น เหล่านี้มีส่วนช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค และคาดการณ์ว่าในปี 2011 อัตราการบริโภคจะอยู่ระหว่าง2.74 – 3.35%

ในส่วนของการส่งออก จากสถิติของกระทรวงการคลัง ไต้หวัน ระบุว่า เดือนม.ค.-ต.ค. 2553 ไต้หวันส่งออกเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 220,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำสถิติสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทุบสถิติที่เคยมีมาเช่นกัน สำหรับสินค้าส่งออกส่วนใหญ่ยังคงเป็น สินค้าอิเลคทรอนิค เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์พลาสติก และอุปกรณ์ที่ใช้ในการขนถ่ายสินค้า โดยตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดยังคงเป็น ฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ คิดเป็น 42% ของการส่งออกทั้งหมด ในขณะที่การส่งออกไปประเทศในอาเซียนคิดเป็น 15.1%
แหล่งที่มา : สนร.ไทเป