Skip to main content

หน้าหลัก

ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารกล่าวว่า “กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (Economic Cooperation Framework Agreement: ECFA)” จะเป็นเหมือน “วิตามิน”ที่ช่วยบำรุงเศรษฐกิจไต้หวัน

 

ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารกล่าวว่า “กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (Economic Cooperation Framework Agreement: ECFA)” จะเป็นเหมือน “วิตามิน”ที่ช่วยบำรุงเศรษฐกิจไต้หวัน

 

 

            Mr. Kenichi Ohmae นักวางกลยุทธทางธุรกิจที่มีชื่อเสียง กล่าวว่า การที่ไต้หวันมีแผนความร่วมมือทางการค้ากับจีน จะเป็น “วิตามิน” ที่เสริมเศรษฐกิจไต้หวัน ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า เกาะไต้หวันจะมีบทบาทเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจสำหรับจีนแผ่นดินใหญ่

            กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (ECFA) ที่จะมีการลงนามระหว่างไทเปและปักกิ่ง รวมทั้งเที่ยวบินจำนวน 370 เที่ยวต่อสัปดาห์ระหว่างไต้หวันและจีน และการลดอัตราภาษีรายได้ธุรกิจเหลือ 17% จะทำให้ไต้หวันเป็นแหล่งดึงดูดนักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนชาวญี่ปุ่น ปัจจัยเหล่านี้จะให้ทำให้ไต้หวันกลายเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจระดับภูมิภาค

            Mr. Ohmae กล่าวกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลไต้หวันว่า ECFA ไม่เพียงเป็นการพัฒนาในเชิงบวกเท่านั้น แต่จะมีส่วนช่วยในการปรับปรุงความสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่ และปูทางไปสู่การจัดทำเขตการค้าเสรี (FTA) กับประเทศคู่ค้าอื่นๆด้วย เมื่อประธานาธิบดี หม่า หยิงเจียว กล่าวว่าเขาหวังว่ากรอบความร่วมมือนี้จะสำเร็จในสมัยแรกที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ขณะนี้กลับใกล้ความเป็นจริง นักวิเคราะห์ส่วนมากมองว่าการเจรจาจะประสบความยุ่งยาก และคาดว่าไต้หวันจะไม่สามารถบรรลุผลที่ต้องการได้ แต่เมื่อจีนแสดงความอดทนที่จะเจรจากับไต้หวันทำให้การเจรจาก้าวหน้าไปมาก แม้กระทั่งประเทศเพื่อนบ้านยังจับตามองอย่างใกล้ชิดในเรื่องการเจรจากรอบความร่วมมือนี้

            นอกจากนี้ เขายังกล่าวว่า การปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่ได้ก่อให้เกิดความกังวลกับเกาหลีใต้ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการค้าของไต้หวันในตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ และผลของ ECFA จะเป็นตัวกำหนดการพัฒนาไปสู่การเป็นเขตการค้าเสรีในอนาคต รวมทั้งเสนอว่าไต้หวันควรจะดำเนินการเจรจาต่อไป นอกจากตลาดจีนแผ่นดินใหญ่แล้วไต้หวันควรมองประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆด้วยเช่นกัน
 

ที่มา : สนร. ไทเป  ข่าวจาก China Post


509
TOP