ระบบการจ้างผู้อนุบาล และผู้ทำงานบ้านต่างชาติในไต้หวันกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยขณะนี้คณะกรรมการแรงงานไต้หวัน (CLA) กำลังดำเนินการปรับปรุงกฎระเบียบในการจ้างผู้อนุบาล และผู้ทำงานบ้านต่างชาติ ซึ่งผู้อนุบาล และผู้ทำงานบ้านต่างชาติไม่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ในบ้านของนายจ้าง
คณะกรรมการแรงงานไต้หวัน (CLA) เพิ่งเสร็จสิ้นการหารือกับผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย กรมสาธารณสุข สมาคมสวัสดิการสังคม และนักวิชาการเกี่ยวกับระบบใหม่ในการจ้างผู้อนุบาล และผู้ทำงานบ้านต่างชาติ ในขณะที่ผู้เข้าร่วมประชุมสนับสนุนระบบใหม่นี้ แต่กรมสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทยแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับผลกระทบในทางลบที่จะมีต่อการส่งเสริมโครงการการดูแลสุขภาพในระยะยาวที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ ซึ่งทาง CLA จะดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานทั้งสองในเรื่องดังกล่าวต่อไป
ภายใต้กฎระเบียบใหม่นี้ CLA จะอนุญาตให้กลุ่ม สถาบัน หรือองค์การที่ไม่แสวงหากำไร ที่มีประสบการณ์มายาวนานในการให้บริการสุขภาพ (healthcare) ดำเนินการจ้างและบริหารจัดการผู้อนุบาล และผู้ทำงานบ้านต่างชาติอย่างถูกกฎหมาย ส่วนผู้ที่ต้องการผู้อนุบาล และผู้ทำงานบ้านต่างชาติสามารถยื่นขอรับบริการกับหน่วยงานดังกล่าวข้างต้น เพื่อ “ซื้อชั่วโมงการให้บริการของผู้อนุบาลฯ” จากนั้นหน่วยงานเหล่านั้นจะส่งผู้อนุบาลฯไปให้บริการตามที่ต้องการ
ในกรณีที่ต้องการการให้บริการ 24 ชั่วโมง ผู้อนุบาลฯที่ถูกส่งไปให้บริการจะทำงานเป็น 2 กะหรือ 3 กะใน 24 ชั่วโมง โดยที่ผู้อนุบาลฯไม่จำเป็นต้อง “อยู่” กับครอบครัวนายจ้างที่ทำงานให้ นอกจากนั้น ผู้ที่สมัครขอรับบริการผู้อนุบาลฯเป็นการชั่วคราวไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินค่า employment stabilization fee ค่าประกันสุขภาพ และค่าประกันภัยแรงงานให้แก่ผู้อนุบาลฯดังกล่าว จากแนวปฏิบัติที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน นายจ้างที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการจ้างผู้อนุบาลฯจะต้องชำระเงินค่าประกันสุขภาพ และค่าประกันภัยแรงงานให้แก่ผู้อนุบาลต่างชาติ รวมทั้งจัดหาที่อยู่ให้ด้วย ซึ่งแนวปฏิบัติเช่นนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นได้แก่ บางครอบครัวไม่มีห้องพักให้ผู้อนุบาลต่างชาติ บางครอบครัวไม่เต็มใจที่จะอยู่กับ “คนนอก” สภาพการทำงานที่แย่ และปัญหาอื่นๆ
CLA กล่าวว่าต้นทุนของการซื้อบริการผู้อนุบาลจากองค์กรเหล่านี้อาจจะสูงกว่าการจ้างผู้อนุบาลต่างชาติในแบบเดิมเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ระเบียบการจ้างแบบใหม่นี้เกิดขึ้น ทั้งผู้อนุบาลต่างชาติและนายจ้างจะได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย สำหรับนายจ้าง ต่อไปก็ไม่จำเป็นจะต้องจัดหาที่พัก หรือจ่ายค่าประกันสุขภาพและค่าประกันภัยแรงงานให้แก่ผู้อนุบาลต่างชาติ หรือเป็นห่วงว่าผู้อนุบาลต่างชาติจะหลบหนี ในขณะเดียวกัน ผู้อนุบาลต่างชาติจะได้รับการคุ้มครองที่ดีขึ้น เนื่องจากจะอยู่ภายใต้การคุ้มครองของกฎหมายมาตรฐานแรงงาน และไม่จำเป็นจะต้องทำงานอื่นๆที่นายจ้างสั่งนอกเหนือจากงานดูแลผู้ป่วย ทั้งนี้ CLA มีแผนจะทดลองใช้ระบบใหม่นี้ในช่วงกลางปี 2544 ในบางพื้นที่ก่อน
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีการทดลองระบบใหม่ จะต้องมีการแก้ปัญหาบางประการก่อน เช่น การกำหนดราคาค่าบริการ การที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนทางการเงินแก่นายจ้างหรือไม่ วิธีการในการจ้างและบริหารจัดการผู้อนุบาล รวมถึงสมควรมีการกำหนดอัตราส่วนระหว่างการจ้างงานผู้อนุบาลที่เป็นคนท้องถิ่นและผู้อนุบาลต่างชาติหรือไม่
ที่มา : สนร.ไทเป ข่าว China Post